TNFD กรอบการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนเกี่ยวกับธรรมชาติ
ในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 15 (CBD COP 15) เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 รัฐภาคี 196 ประเทศ ได้ตกลงกันในกรอบงานคุนหมิง-มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก (Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework: KM-GBF) ซึ่งเป็นแผนสำหรับเร่งดำเนินการเพื่อหยุดยั้งการสูญเสียและนำความหลากหลายทางชีวภาพกลับคืนมา ภายในปี ค.ศ. 2030 และให้ประชาคมโลกมีคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่กับการมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภายในปี ค.ศ. 2050 ความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า คือ การลดภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและการแบ่งปันผลประโยชน์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน และการแสวงหาเครื่องมือการแก้ปัญหาการดําเนินงานและการผลักดันให้ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นกระแสหลัก
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2021 ได้มีการก่อตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับธรรมชาติ (Task Force on Nature-related Financial Disclosures: TNFD) เพื่อจัดทำกรอบการรายงานที่ครอบคลุมและเข้มงวด โดยได้ออกเป็นข้อเสนอแนะการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับธรรมชาติ ในปี ค.ศ. 2023 เพื่อสนับสนุนให้ยกระดับการเปลี่ยนแปลงกระแสเงินทั่วโลก จากการหลีกเลี่ยงและลดผลกระทบเชิงลบต่อธรรมชาติ ไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธรรมชาติ
TNFD มีความสำคัญยิ่งต่อการส่งเสริมการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ข้อ 15 โดยในกรอบงาน KM-GBF เรียกร้องอย่างชัดเจนให้ใช้มาตรการทางกฎหมาย การบริหาร และนโยบายเพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ บรรษัทข้ามชาติ และสถาบันการเงิน ตรวจสอบ ประเมินและเปิดเผยความเสี่ยง การพึ่งพาและผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสม่ำเสมอ
ข้อเสนอแนะของ TNFD จะส่งเสริมให้เกิดการรายงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่สอดคล้องกันทั่วโลก มีองค์ประกอบการรายงานแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลัก ได้แก่ (1) การกำกับดูแล (2) กลยุทธ์ (3) การจัดการความเสี่ยงและผลกระทบ และ (4) ตัวชี้วัดและเป้าหมาย ที่พ้องกับการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (TCFD) โดยมีรายการที่แนะนำให้เปิดเผยทั้งหมด 14 รายการ
แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกันในองค์ประกอบระหว่าง TCFD และ TNFD แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือ TCFD มุ่งเน้นเฉพาะการเปิดเผยความเสี่ยงและโอกาสเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ขณะที่ข้อเสนอแนะของ TNFD สนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง โอกาส ผลกระทบ และการพึ่งพาที่ครอบคลุมถึงระบบนิเวศ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการมลภาวะ และความหลากหลายทางชีวภาพ นอกเหนือจากเรื่องสภาพภูมิอากาศ
จากข้อมูลของ TNFD นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ข้อเสนอแนะ ในปี ค.ศ. 2023 มีองค์กรราว 502 แห่ง ใน 54 ประเทศ (ข้อมูลเดือนตุลาคม 2567) ได้ประกาศรับเอาแนวทางของ TNFD ไปใช้ในการเพิ่มความโปร่งใสต่อการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง โอกาส ผลกระทบ และการพึ่งพาเกี่ยวกับธรรมชาติ โดยในจำนวนนี้มีองค์กรในประเทศไทย จำนวน 6 แห่ง ที่เข้าร่วม
หน่วยงาน IFRS (International Financial Reporting Standards) ได้เริ่มศึกษาถึงความจำเป็นต่อการจัดทำมาตรฐานเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศ และบริการจากระบบนิเวศ ตามที่ระบุไว้ในแผนงานระหว่างปี ค.ศ. 2024-2026 เพื่อประเมินว่าเป็นข้อมูลที่ผู้ลงทุนสนใจหรือต้องการให้กิจการเปิดเผยในรายงานทางการเงินเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนมากน้อยเพียงใด
ขณะที่ หน่วยงาน GRI (Global Reporting Initiative) ในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานโลกด้านการรายงานความยั่งยืน ได้ออกมาตรฐาน GRI 101: Biodiversity 2024 ที่สอดคล้องกับกรอบ KM-GBF เพื่อช่วยองค์กรธุรกิจทำความเข้าใจถึงการตัดสินใจและการดำเนินงานทางธุรกิจที่อาจนำไปสู่การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ผลกระทบที่เกิดขึ้นในสายคุณค่า และวิธีการในการจัดการผลกระทบดังกล่าว
หากมองผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่ปรากฎอยู่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า อนาคตของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก และความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต ขึ้นอยู่กับสภาพธรรมชาติ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างชาญฉลาดควบคู่ไปกับการบำรุงรักษาบริการจากระบบนิเวศ
การประเมินคุณค่า อนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความเจริญรุ่งเรืองของคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นอนาคต ซึ่งหากองค์กรธุรกิจ ยังคงมองว่าธรรมชาติเป็นผู้จัดหาปัจจัยสำคัญที่มีไม่จำกัดและไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในกระบวนการดำเนินงานและห่วงโซ่คุณค่า รวมทั้งไม่ยอมรับถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบในฐานะผู้ดูแลโลก ความยั่งยืนที่แท้จริงจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้
[Original Link]