ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ ติดอันดับหลักทรัพย์ ESG100 เป็นปีที่หก
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP) ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะชั้นนำ และเป็นผู้ให้บริการกำจัดขยะ มีโรงกำจัดขยะชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยโรงกำจัดขยะทั้งหมดของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งเดียวกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ.2568 โดยสถาบันไทยพัฒน์

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ (ที่ 5 จากขวา) ประธานกรรมการ พร้อมคณะผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP) รับมอบประกาศนียบัตร ESG 100 Company ประจำปี 2568 ในฐานะบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากนายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานสถาบันไทยพัฒน์ ณ สำนักงานใหญ่ ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ สาทร กรุงเทพฯ
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2568 ด้วยการคัดเลือกจาก 921 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มทรัพยากร และบริษัทได้เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 เป็นปีที่ 6
“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน โดยตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาด ด้วยการเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 100% ภายในปี 2568 บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 534 เมกะวัตต์ โดยสิ้นไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทฯ สามารถนำขยะทุกประเภทรวมจำนวน 781,686 ตัน มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ และขายขยะที่คัดแยกเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงปูนซิเมนต์ของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)
บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของภาคการผลิตไฟฟ้าในการร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และจำกัดอุณหภูมิของโลกมิให้สูงเกิน 1.5 °C ตามความตกลงปารีส บริษัทฯ จึงได้กำหนดให้การบริหารจัดการด้านภูมิอากาศ เป็นประเด็นความยั่งยืนที่เป็นสาระสำคัญขององค์กร และได้ประกาศเป้าหมายระยะยาวในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2580 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศไทย 13 ปี”
โดยการจัดระดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน
สถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11 ในปีนี้
การจัดระดับหลักทรัพย์ด้านการพัฒนาความยั่งยืนโดยสถาบันไทยพัฒน์ เป็นการประเมินอย่างเป็นอิสระในฐานะหน่วยงานภายนอก โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยต่อสาธารณะ เทียบกับชุดตัวชี้วัดด้าน ESG ตามเกณฑ์และหลักการภายใต้แนวทางการประเมินและมาตรฐานการรายงานด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาทิ WFE, GRI, IFRS, UN PRI
ข้อมูลเพิ่มเติม
คุณศิตา ศิริศักดิพร
โทรศัพท์: 02-930-5227 โทรสาร: 02-930-5228
อีเมล: info@thaipat.org
[ข่าวประชาสัมพันธ์]