Single Strategy Map

Perspectives        Map        Journey

หนึ่งในวิธีการสำหรับกิจการที่คุ้นเคยกับการจัดทำแผนที่กลยุทธ์ (Strategy Map) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการ คือ การปรับแต่งแผนที่กลยุทธ์ด้วยการผนวกปัจจัยด้าน ESG และขยายมุมมองให้ครอบคลุมเรื่องความยั่งยืน ด้วยการเชื่อมโยงวัตถุประสงค์ทางธุรกิจให้เข้ากับวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนได้ภายใต้แผนที่กลยุทธ์หนึ่งเดียว

โดยในมุมมองแรก เรื่องการเงิน (Financial) ที่กิจการใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จผ่านทางตัวเลขทางการเงิน จำต้องขยายมาสู่การบรรจุตัววัดที่มิใช่ตัวเลขทางการเงิน เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินการกับปัจจัยด้าน ESG ในบริบทของผลกระทบ (Impact) จากการประกอบธุรกิจที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะไปสัมพันธ์กับการประเมินสาระสำคัญสองนัย (Double Materiality) ระหว่างนัยทางการเงินกับนัยของผลกระทบ

มุมมองต่อมา เรื่องลูกค้า (Customer) ที่กิจการใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในแง่การเติบโตของธุรกิจที่เป็นผลจากความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า จำต้องขยายมาสู่การบรรจุตัววัดในแง่ความยั่งยืนของกิจการที่เป็นผลจากความสามารถในการตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินการกับปัจจัยด้าน ESG ที่รวมถึงประเด็นด้านสุขภาพ ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว สิทธิมนุษยชน การปฏิบัติด้านแรงงาน การปฏิบัติทางสัญญาที่เป็นธรรม และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ถัดมาเป็นมุมมองเรื่อง กระบวนการภายใน (Internal Process) ที่ปัจจุบัน กิจการมิได้จำกัดอยู่เพียงการบริหารจัดการกระบวนการภายในองค์กร แต่ยังต้องคำนึงถึงการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าซึ่งเป็นกิจกรรมที่ขึ้นกับกระบวนการภายนอกองค์กร (External Process) และเป็นไปเพื่อคงขีดความสามารถทางการแข่งขันของกิจการ โดยเฉพาะในส่วนที่มีความเกี่ยวโยงกับปัจจัยด้าน ESG ของคู่ค้า ผู้ส่งมอบ ผู้แทนจำหน่าย และคู่ความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง

และมุมมองสุดท้ายเป็นเรื่อง การเรียนรู้และการเติบโต (Learning and Growth) ที่จำเป็นต้องขยายมุมมองด้วยการเพิ่มเติมเรื่องความใส่ใจต่อผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ ในระดับที่สามารถก่อให้เกิดเป็นความยั่งยืนของกิจการและความยั่งยืนของส่วนรวมในท้ายที่สุด (Caring and Last)

การจัดทำแผนที่กลยุทธ์จะช่วยให้กิจการเห็นภาพรวม (Holistic View) ของปัจจัยด้าน ESG ที่นำไปสู่ความยั่งยืน และเห็นการปรับแนวการดำเนินงานและจุดเน้น (Alignment and Focused) ขององค์กรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นเอกภาพ

จะเห็นได้ว่า วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ปรากฏในแผนที่กลยุทธ์ซึ่งได้ถูกขยายให้ครอบคลุมเรื่องความยั่งยืน มีความสัมพันธ์กันในเชิงเหตุและผล (Cause and Effect) ระหว่างมุมมอง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า การดำเนินการกับปัจจัยด้าน ESG สามารถผนวกเข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน


Popular posts from this blog

ความสำคัญของบริษัทนอกตลาดที่เป็นธุรกิจครอบครัว

รู้จักเครื่องมือ Double Materiality

ทำเนียบบริษัทกลุ่ม ESG Emerging ปี 2567